ความภาคภูมิใจ "พระราชวังสนามจันทร์" ของชาวจังหวัดนครปฐม และชาวไทยทั้งมวล

 


                        เมื่อนึกถึงสถานที่ที่สำคัญในจังหวัดนครปฐม และเป็นความภูมิใจของคนนครปฐมนอกจากเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ "องค์พระปฐมเจดีย์" นั้นก็คือ "พระราชวังสนามจันทร์"  ในฐานะที่แอดมินเป็นคนจังหวัดนครปฐม และได้ทำงานรับราชการเป็นเวลากว่า 30 ปี  ที่ทำงานราชการในการเป็นพนักงานจวบจนเข้ารับราชการ เมื่อได้ทบทวนสิ่งต่าง ๆ ในการปฏิบัติงานในจังหวัดนครปฐม หนึ่งในภารกิจในช่วงที่พระราชวังสนามจันทร์ได้มีการบูรณะซ่อมแซมพระตำหนักต่าง ๆ  และเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในช่วงแรก จึงมีความตั้งใจที่จะค้นคว้าความรู้ในแต่ละพระตำหนักในพระราชวังสนามจันทร์ เพื่อเป็นองค์ความรู้ให้แก่ประชาชนได้มีความตระหนัก และมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระคุณอันประเสริฐอย่างหาที่สุดมิได้

                    พระราชวังสนามจันทร์เป็นพระราชวังแห่งหนึ่งที่ทรงคุณค่า ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม ห่างจากกรุงเทพ ลงไปทางทิศไต้ ๕๖ กิโลเมตร บริเวณที่เป็นพระราชวังสนามจันทร์อยู่ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๑ กิโลเมตร ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณ ซึ่งเดิมเรียกว่า "หมู่บ้านเนินปราสาท" ทั้งนี้หลักฐานที่ปรากฏ ได้แก่ ร่องรอยของเนินปราสาท พระราชวังโบราณ และโบสถ์พราหมณ์ ซึ่งด้านหน้ามีสระน้ำ เรียกมาแต่เดิมว่า "สระน้ำจันทร์" (ปัจจุบันชาวบ้านเรียกว่า "สระบัว")

                    พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) ขณะดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงรับพระราชภาระจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ในการปูกระเบื้องประดับองค์พระปฐมเจดีย์ทำให้ทำให้ทรงมีความคุ้นเคยกับภูมิประเทศแถบนี้ และทรงตระหนักถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมของเมืองนครปฐม พระองค์จึงมีพระราชประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังที่ประทับในการแปรพระราชฐานมายังเมืองนครปฐมในโอกาสที่เสด็จมาสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ และประทับพักผ่อนพระอิริยาบถ ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงพระยศเป็น พระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงดำรงราชานุภาพ ขอซื้อที่ดินจากราษฎรในบริเวณดังกล่าวเพื่อจัดสร้างพระราชวังรวมเนื้อที่ทั้งสิ้น ๘๘๘ ไร่ ๓ งาน ๒๔ ตารางวา แล้วทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้หลวงพิทักษ์มานพ ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาวิศุกรรมศิลปประสิทธิ์ (น้อง ศิลปี) เป็นผู้ออกแบบและดำเนินการก่อสร้างพระราชวังแห่งนี้ในปี พ.ศ. ๒๔๕๐ อันเป็นช่วงปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานนามพระราชวังแห่งนี้ว่า  "พระราชวังสนามจันทร์" 

                พระราชวังสนามจันทร์  นอกจากจะเป็นที่ประทับขณะแปรพระราชฐานมายังเมืองนครปฐมแล้ว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังมีพระราชดำริให้เมืองนครปฐมเป็นที่มั่นที่สองรองจากกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับวิกฤตการณ์ของประเทศอันอาจจะเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ หลังจากที่ทรงตั้งกองเสือป่าขึ้นแล้ว เมื่อถึงคราวซ้อมรบเสือป่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงเปลี่ยนบทบาทของพระราชวังสนามจันทร์จากที่ประทับเป็นค่ายหลวงพระราชวังสนามจันทร์

                ความทรงคุณค่าของพระราชวังสนามจันทร์นั้น มิใช่เป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของรูปแบบของสถาปัตยกรรมในรัชสมัยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และเป็นพระราชวังที่มีบทบาทเด่นในด้านการรักษาความมั่นคงของชาติที่ไม่มีแห่งใดเสมอเหมือนอันควรแก่ความภูมิใจของชาวนครปฐม และชาวไทยทั้งมวล

                 ในครั้งหน้า ขอเชิญทุกท่านติดตามประวัติความเป็นมาของ "พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์

Cr.  เอกสารเผยแพร่ พระราชวังสนามจันทร์





โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) ลงพื้นที่นครปฐม เดินหน้ารณรงค์เชิงรุก “สร้างความรู้สู่ชุมชน” พร้อมมุ่งสร้างความตระหนักรู้เรื่องสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล และเสริมภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ให้กับประชาชนในทุกระดับ ที่ อบจ.นครปฐม