ผู้ว่าฯ นครปฐม ขับเคลื่อนเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2567 เวลา 17.00 น. ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดนครปฐม โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม นางฐิติรัตน์ เรืองสังข์ วัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม จัดโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดนครปฐม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ประธานในพิธีเปิดฯ พร้อมด้วย นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม /ประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ดร.วิรัตน์ ปิ่นแก้ว อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ดร.พรรณระพี บุญเปลี่ยน ผู้อำนวยการสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม นางนภาพรรณ จิตต์กระจ่าง ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม คณาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษา เข้าร่วมพิธีเปิดและกิจกรรมในครั้งนี้ ในการนี้ นางสาวภาณี ภัทรพิทักษ์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ เป็นผู้ประสานงานในโครงการฯ ดังกล่าว

จากที่องค์การยูเนสโกได้ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรม การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยมิติด้านวัฒนธรรมผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม จากฐานรากที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง จึงได้เสนอแนวคิด “โครงการเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network – UCCN)” โดยมุ่งหวังความร่วมมือจากหลากหลายภาคส่วน ตั้งแต่ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ด้วยนโยบายในระดับท้องถิ่นที่เชื่อมโยงกับเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างเครือข่าย เมืองที่เน้นการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ด้วยวิสัยทัศน์เดียวกัน การแลกเปลี่ยน ถ่ายทอดประสบการณ์ องค์ความรู้ และกิจกรรม และสร้างรูปแบบใหม่ของความร่วมมือในระดับโลก โดยแบ่งออกเป็น 7 สาขาได้แก่ 1) ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน (Crafs and Folk Arts) 2) ด้านการออกแบบ (Design) 3) ภาพยนตร์ (Film) 4) อาหาร (Gastronomy) 5) วรรณกรรม (Literature) 6) มีเดียอาร์ต (Media Arts) และ (7) ดนตรี (Music) ปัจจุบันเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโกประกอบไปด้วยสมาชิก 180 เมือง ใน 72 ประเทศ

จังหวัดนครปฐมได้มีการศึกษาเกณฑ์การเข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ สาขาดนตรี ปรากฏว่า จังหวัดนครปฐมเป็นเมืองที่มีศักยภาพ ความพร้อม และความเหมาะสมในหลายด้านสำหรับการเป็นเมืองที่จะรองรับเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ทั้งด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ดังนี้ 1) มีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน อาทิ คุณแม่ศรีนวล ขำอาจ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ เป็นศิลปินแห่งชาติ ประจำปี 2562 ในสาขาศิลปะการแสดง เพลงพื้นบ้าน - ลำตัด ปัจจุบันท่านได้จัดตั้งแหล่งเรียนรู้ขึ้นเพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาการละเล่นลำตัดไว้ให้เยาวชนและผู้สนใจได้ศึกษา , ตระกูลปี่พาทย์ “แก้วบูชา” ตระกูลนักดนตรีเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ได้สืบทอดและรักษาศิลปวัฒนธรรมทางด้านดนตรีไทยมาอย่างยาวนาน และถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มีอยู่ในแก่อนุชนรุ่นหลัง 2) มีสถาบันการศึกษา ที่จัดการเรียนการสอนในสาขาดนตรีถึง 3 สถาบัน ประกอบด้วย วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับนานาชาติจากสถาบัน MusiQuE สถาบันบัณฑิตพัฒนาศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม มีอัตลักษณ์ของสถาบัน คือ สืบสาน สร้างสรรค์งานศิลป์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมที่มีการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาดนตรีศึกษา 3) จังหวัดนครปฐม มี “มหิดลสิทธาคาร” (Prince Mahidol Hall) เป็นสถานที่แสดงดนตรีที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดนครปฐม เปรียบเสมือนห้องรับแขกที่ได้ต้อนรับวงออร์เคสตราชั้นนำจากทั่วโลกมาแล้วไม่ว่าจะเป็น วงเบอร์ลินฟีลฮาร์โมนิก วงลอนดอนซิมโฟนีออร์เคสตรา วงบีบีซีซิมโฟนีออร์เคสตรา วงโตเกียวซิมโฟนีออร์เคสตราสนามจันทร์ , Big Bang Swing Dance, งานสังคีตศาลายา , Thailand International Jazz Conference (TUC) เทศกาลดนตรีแจ๊สนานาชาติเพือการเรียนรู้ที่จัดมาอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลา 12 ปี , Thailand International Composition Festival (TIFC) : โครงการเทศกาลการประพันธ์ดนตรีนานาชาติแห่งประเทศไทย โครงการต่อเนื่องที่ทางวิทยาลัยได้จัดมานานกว่า 15 ปี , Thailand International Wind Symphonic Competition (TIWSC) : โครงการประกวดดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติแห่งประเทศไทย ภายใต้โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือกับภาคเอกชน เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเทศกาลที่มีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในจังหวัดนครปฐม

เพื่อเป็นการสนับสนุนการพัฒนาให้จังหวัดนครปฐมขับเคลื่อนก้าวสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) สาขาดนตรีและร่วมขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ในประเด็นด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม จังหวัดนครปฐมจึงได้จัดทำโครงการส่งเสริม การท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย(Smart Tourism) จังหวัดนครปฐม กิจกรรมการขับเคลื่อนเมืองนครปฐมเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO ซึ่งจังหวัดนครปฐมมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาจังหวัดนครปฐมให้เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart city) ที่มีอัตลักษณ์เป็นที่รู้จัก และสนองนโยบายการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ในประเด็นด้านการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม

สำหรับการจัดกิจกรรมโครงการส่งเสริม การท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรม การท่องเที่ยวที่หลากหลาย (Smart Tourism) จังหวัดนครปฐม ในครั้งที่ 2 วันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. - 13.00 น. ณ วัดไร่ขิงอ.สามพราน โดยมีวงดนตรีจากโรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา โรงเรียนวัดไร่ขิง (สุนทรอุทิศ) ครั้งที่ 3 วันพุธที่ 31 มกราคม 2567 เวลา 18.00 น. – 21.00 น. ณ ลานจอดรถตลาดไฟฟ้า อ.นครชัยศรี วงดนตรีพระปฐมวิทยาลัย ครั้งที่ 4 วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 18.00 น. - 21.00 น. ณ ตลาดกิเลน อ.พุทธมณฑล วงดนตรีโรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย ครั้งที่ 5 ในวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 12.00 น. - 15.00 น. ณ โรงเรียนกำแพงแสนวิทยา อ.กำแพงแสน วงดนตรีโรงเรียนกำแพงแสนวิทยา และวงดนตรีโรงเรียนคงทองวิทยา ครั้งที่ 6 วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ตลาดน้ำวัดลำพญา อ.บางเลน วงดนตรีการแสดงโปงลางและนาฏศิลป์พื้นบ้าน และการแสดงลำตัดแม่ศรีนวล และในครั้งที่ 7 ในวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 18.00 น. – 21.ณ วัดสามง่าม อ.ดอนตูม วงดนตรีโรงเรียนคงทองวิทยา และการแสดงวงพินแคนดอนตูมและการแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้าน

การจัดกิจกรรมฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการส่งเสริมให้ประชาชนภายในจังหวัดนครปฐม เกิดความสนใจ ความรักในดนตรีและเพิ่มโอกาสในการทำกิจกรรมสร้างสรรค์ผลงานทางด้านดนตรี ส่งเสริมให้ประชาชนมีการนำกิจกรรมดนตรี การศึกษาดนตรีไปใช้ประโยชน์ เพื่อสร้างสุขภาพร่างกายและจิตใจให้เข้มแข็ง สร้างความสามัคคี และความภาคภูมิใจของคนในจังหวัดนครปฐม และเพื่อเป็นการยกระดับการประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐมให้เป็นเมืองดนตรีที่มีชื่อเสียง และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรม ส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดนครปฐมมีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืนต่อไป