กระทรวงมหาดไทย นำร่องจังหวัดนครปฐม โครงการร้อยใจไทยสืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 เวลา 06.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ ลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ องค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เจ้าคุณพระราชวัชรสุทธิวงศ์ เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ ประธานฝ่ายสงฆ์ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธีฯ ในโครงการร้อยใจไทยสืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายยงยุทธ สวนทอง นายปรีชา ดิลกพรเมธี นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายพัฒนพงษ์ สร้อยอินทรากุล ปลัดจังหวัดนครปฐม พันโท ดร.สินธพ แก้วพิจิตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม เขต 2 รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ภาคส่วนต่างๆ และพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้

ตามที่กระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ดำเนินการโครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรมทั้งแผ่นดิน ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยกำหนดพื้นที่จังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัดต้นแบบในการดำเนินโครงการฯ ตามเป้าหมายในระยะที่ 1 ระหว่างเดือนธันวาคม 2567 – เดือนมกราคม 2568 กระทรวงมหาดไทย ได้รับดำริพระเดชพระคุณพระราชวัชรสุทธิวงศ์ จึงได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการร้อยใจไทยสืบสานราชธรรม ซึ่งเป็นโครงการที่ขยายผลมาจากโครงการ “ร้อยใจธรรม ร้อยอำเภอ สืบสานราชธรรม” สู่ระดับจังหวัด ซึ่งจัดขึ้นเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการเผยแผ่ราชธรรมที่นักปกครองและประชาชนควรเรียนรู้ และถือปฏิบัติอันจะเป็นการปลูกฝัง เสริมสร้างอุดมการณ์ให้แก่นักปกครอง องค์กรเอกชน ประชาชนทั่วไป รวมถึงคณะกรรมการและสมาชิกของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้มีหลักการและวิธีการตามแนวทางราชธรรม โดยกำหนดเป้าหมายโครงการในระยะที่ 1 จำนวน 15 จังหวัด ซึ่งจังหวัดนครปฐม เป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องที่ได้จัดกิจกรรมขึ้นในครั้งนี้

โอกาสนี้ พระราชวัชรสุทธิวงศ์ กล่าวสัมโมทนียกถา ความว่า “ความศักดิ์สิทธิ์ของการปกครองเกิดขึ้นจากความจริงใจทั้งหลายของคนที่เคารพธรรม ด้วยแรงปรารถนาอยากให้บ้านเมืองมีความสงบสุข ผู้ประพฤติธรรม ผู้ปกครองแผ่นดินทั้งหลายต้องเคารพธรรม ต้องมีธรรม สร้างธรรมให้ประชาชน พรั่งพร้อมไพบูลย์ด้วยคุณธรรมและความดี ทั้งนี้ ด้วยบทบาทและหน้าที่ต้องใช้ธรรมะเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นผู้มีคำว่า “ให้” ประเทศชาติก็จะพ้นวิกฤตการณ์ได้โดยการให้นั้น ต้องให้สิ่งที่ควรให้ ให้สิ่งที่ให้ได้ สิ่งที่มีประโยชน์กับผู้รับ เพื่อเขาจะได้กลับมาเป็นผู้มีศีลเช่นเดียวกับผู้ให้ รู้สิ่งที่ควรสงเคราะห์ รู้สิ่งที่ไม่ควรสงเคราะห์ เมื่อมีการให้ที่ถูกต้อง ก็จะสร้างความมีศีลขึ้นมา เรียกว่า “ให้ที่มีอารยธรรม” และท้ายที่สุดการระงับยับยั้งกิเลส ก็เกิดขึ้นการยับยั้งชั่งใจเป็นเรื่องใหญ่มาก ต้องควบคุมตนเองได้ ไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรม ประพฤติ ปฏิบัติชอบ ซื่อตรง ต่อธรรม ผู้นำและผู้ปกครองต้องมีตบะ ควบคุมความโกรธได้ ควบคุมความเกลียดได้ หากเกิดความโกรธเกลียดขึ้นกับใครก็แล้วแต่ เมื่อใครเห็นใครพบก็จะเกลียดเราเช่นกัน ต้องควบคุมกล่อมเกลาจิตใจตลอดเวลา ให้เมตตา ให้ความรักต่อเพื่อนทั้งหลายอย่างเสมอกัน ด้วยการแผ่เมตตา ต้องมีสัมปชัญญะเสมอ สิ่งที่ต้องมีและรักษาไว้ คือความดี สิ่งที่ต้องละทิ้ง คือความชั่ว และต้องยึดหลักความเพียรชอบอยู่เสมอ โดยไม่เสียศีลไม่ผิดธรรม ต้องไม่ผิดกฎหมาย ต้องไม่ผิดกฎของสังคมและกฎของธรรม ถ้ายึดธรรมไว้ อดทนอดกลั้น รับได้ทุกเรื่อง หาทางบริหารจัดการให้ได้โดยไม่ทำบาปไม่ทำผิด และไม่เบียดเบียนใคร ก็จะเป็นผู้นำและผู้ปกครองผู้มีราชธรรม ดังพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนคนไทยทั้งปวง จึงเป็นที่มาของ “โครงการร้อยใจไทยสืบสานราชธรรมทั้งแผ่นดิน”

ในการนี้ ประธานสงฆ์ ได้บรรยายธรรมบูชาคุณพระรัตนตรัยและประกาศราชธรรม เพื่อประโยชน์สุขของแผ่นดินไทย และพุทธศาสนิกชนได้พร้อมใจกันร่วมตักบาตรกันอย่างเนืองแน่น โดยบรรยากาศเต็มเปี่ยมด้วยพลังบุญเป็นอย่างยิ่ง พร้อมความมุ่งมั่นในการทำความดีเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วยหัวใจสืบไป